อำนาจหน้าที่ของ อบต. มีอะไรบ้าง

อำนาจหน้าที่ของ อบต. 
แยกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ อำนาจหน้าที่ตามกฏหมายจัดตั้ง อบต. และอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเลือกตั้ง อบต. 
อบต. มีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาตำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม: กิจการสาธารณที่ อบต. มีอำนาจหน้าที่จัดทำสามารถจำแนกได้ 2 ประเภทคือ 

  1) กิจการที่ อบต. มีหน้าที่ต้องทำในเขต อบต.ดังนี้ 
                  (1)  จัดให้มีการบำรุงรักษาทางน้ำและทางบก
                  (2)  รักษาความสะอาดของถนน ทางน้ำ ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล 
                  (3)  ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ 
                  (4)  ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
                  (5)  ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 
                  (6)  ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ 
                  (7)  คุ้มครองดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 
                  (8)  บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น
                  (9)  ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมาย โดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากรให้ตามความจำเป็นและสำคัญ 

    2) กิจการที่ อบต. อาจจัดทำในเขต อบต. ดังนี้ 
                  (1)  ให้มีน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตร 
                  (2)  ให้มีการบำรุงรักษาการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น 
                  (3)  ให้มีและบำรุงรักษาทางระบายน้ำ 
                  (4)  ให้มีและบำรุงสถานที่ประชุม การกีฬา การพักผ่อนหย่อนใจ และสวนสาธารณะ
                  (5)  ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรและกิจการสหกรณ์ 
                  (6)  ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมในครอบครัว 
                  (7)  บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร 
                  (8)  การคุ้มครองดูแลและรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
                  (9)  หาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของ อบต. 
                 (10)  ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือ และท่าข้าม 
                 (11)  กิจการเกี่ยวกับการพานิชย์
                 (12) การท่องเที่ยว 
                 (13) การผังเมือง

           อำนาจหน้าที่ อบต. ดังกล่าวข้างต้น ไม่ตัดอำนาจของกระทรวง ทบวง กรม องค์การหรือหน่วยงานของรัฐในการเข้าไปดำเนินการใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในตำบล แต่จะต้องแจ้งให้ อบต. ทราบล่วงหน้า และนำความเห็นของ อบต. เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาดำเนินงานด้วย

อำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

          นอกจากอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ สภาตำบล และอบต. พ.ศ. 2537 แล้ว อบต. ยังมีอำนาจหน้าที่เพิ่มเติมในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตน ตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ดังนี้ 

                 (1)  การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง 
                 (2)  การจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ และทางระบายน้ำ 
                 (3)  การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทียบเรือ ท่าข้าม และที่จอดรถ 
                 (4)  การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ
                 (5)  การสาธารณูปการ
                 (6)  การส่งเสริม การฝึกและประกอบอาชีพ 
                 (7)  การพานิชย์ และการส่งเสริมการลงทุน
                 (8)  การส่งเสริมการท่องเที่ยว 
                 (9)  การจัดการศึกษา 
                 (10)  การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส 
                 (11)  การบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น 
                (12)  การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
                (13)  การจัดให้มีและบำรุงรักษาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ 
                (14)  การส่งเสริมการกีฬา 
                (15)  การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
                (16)  การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น 
                (17)  การรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
                (18)  การจำกัดมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และน้ำเสีย
                (19)  การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล 
                (20)  การจัดให้มีและควบคุมสุสานและฌาปนกิจสถาน 
                (21)  การควบคุมการเลี้ยงสัตว์ 
                (22)  การจัดให้มีและควบคุมการฆ่าสัตว์
                (23)  การรักษาความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการอนามัยโรงมหรสพ และสาธารณสถานอื่นๆ
                (24)  การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ แลสิ่งแวดล้อม 
                (25)  การผังเมือง
                (26)  การขนส่ง และการวิศวกรรมจราจร
                (27)  การดูแลรักษาที่สาธารณะ
                (28)  การควบคุมอาคาร 
                (29)  การป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย 
                (30)  การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและการสนับสนุน การป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 
                (31)  กิจการอื่นใดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น

การออกข้อบัญญัติท้องถิ่น อบต. 
          เพื่อใช้บังคับในเขต อบต. ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมายเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของ อบต. หรือเมื่อมีกฎหมายกำหนดให้ อบต. ออกข้อบัญญัติในการนี้จะกำหนดค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บและกำหนดโทษปรับผู้ฝ่าผืนด้วยก็ได้ แต่มิให้กำหนดโทษปรับเกินหนึ่งพันบาท เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
          ร่างข้อบัญญัติ อบต. จะเสนอได้โดยนายก อบต. หรือ สมาชิกสภา อบต. หรือราษฎรในเขต อบต. ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น

การปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของ อบต. 
          ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และให้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาอบต. การจัดทำงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง การประเมินผลการปฏิบัติงาน และการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับว่าด้วยการนั้น และหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด

นายก อบต. คือใคร มีที่มาอย่างไร มีหน้าที่อะไร
และมีใครเป็นผู้ช่วยเหลือในการบริหารราชการบ้าง 

    นายก อบต. คือหัวหน้าผู้บริหาร อบต. เป็นควบคุมและรับผิดชอบการบริหารราชการของ อบต. ตามกฎหมายและเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานส่วนตำบลและลูกจ้างของ อบต.

การเลือกตั้งและการดำรงตำแหน่งของนายก อบต. 
          อบต. มีนายก อบต. 1 คน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น : ดำรงตำแหน่งนับตั้งแต่วันเลือกตั้งและมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้

ผู้ช่วยเหลือในการบริหารราชการของ นายก อบต. ดังนี้ 
          (1) รองนายก อบต. : นายก อบต. สามารถแต่งตั้งรองนายก อบต. ซึ่งมิใช่สมาชิกสภา อบต. ได้ไม่เกิน 2 คน 
          (2) เลขานุการนายก อบต. : นายก อบต. สามารถแต่งตั้ง เลขานุการนายก อบต. จากผู้ที่มิได้เป็นสมาชิกสภา อบต. หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ 1 คน

อำนาจหน้าที่ของ นายก อบต. 
          1. ก่อนเข้ารับหน้าที่ นายก ต้องแถลงนโยบายต่อสภา อบต. โดยไม่มีการลงมติ หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้ทำเป็นหนังสือแจ้งต่อสมาชิกสภา อบต. ทุกคน และจัดทำรายงานแสดงผลการปฏิบัติงานตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภา อบต. เป็นประจำทุกปี 

          2. มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 59 ดังนี้ 

                (1)  กำหนดนโยบายโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย และรับผิดชอบในการบริหารราชการของ อบต. ให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย แผนพัฒนา อบต. ข้อบัญญัติ ระเบียบ และข้อบังคับทางราชการ 
                (2)  สั่ง อนุญาต และอนุมัติเกี่ยวกับราชการของ อบต.
                (3)  แต่งตั้งและถอดถอนรองนายก อบต. และเลขานุการนายก อบต. วางระเบียบเพื่อให้งานของ อบต. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัติ อบต. 
                (4)  ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และกฎหมายอื่น 

          3. ควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารราชการของ อบต. ตามกฎหมาย และเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานส่วนตำบล ลูกจ้างและพนักงานจ้างของ อบต. 

          4. นายก อบต. รองนายก อบต. หรือผู้ซึ่งนายก อบต. มอบหมายมีสิทธิเข้าประชุมสภา อบต. และมีสิทธิแถลงข้อเท็จจริงตลอดจนแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับงานในหน้าที่ของตนต่อที่ประชุมแต่มี่สิทธิออกเสียงลงคะแนน 

          5. กรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งประธานและรองประธาน อบต. หรือ สภา อบต. ถูกยุบเพราะว่าไม่สามารถจัดให้มีการประชุมสภา อบต. ครั้งแรกภายใน 15 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต. หรือมีการประชุมแต่ไม่สามารถเลือกประธานสภา อบต.ได้ หากกรณีสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนซึ่งปล่อยให้เนิ่นช้ไปจะกระทบต่อประโยชน์สำคัญของราชการหรือราษฎร นายก อบต. จะดำเนินการไปพลางก่อนเท่าที่จำเป็นก็ได้ แต่เมื่อได้เลือกประสภา อบต. แล้วให้เลือกประธานสภา อบต. เพื่อให้นายก อบต. แถลงนโยบายโดยไม่มีการลงมติภานใน 15 วัน นับแต่วันที่มีการเลือกตั้งประธานสภา อบต. 

          6. กรณีนายกปฏิบัติการที่อาจเสียหายแก่ อบต. หรือเสียหายแก่ราชการ และนายอำเภอได้ชี้แจ้งแนะนำแล้วไม่ปฏิบัติตาม ในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนที่จะรอช้าไม่ได้ นายอำเภอมีอำนาจออกคำสั่งระงับการปฏิบัติราชการของนายก อบต. ไว้ตามที่เห็นสมควรได้ แล้วรีบรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดภายใน 15 วัน เพื่อวินิจฉัยตามที่เห็นสมควรโดยเร็ว: การกระทำของนายก อบต.ที่ฝ่าฝืนคำสั่งนายอำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าว ไม่มีผลผูกพันกับ อบต. 

          7. เป็นผู้เสนอร่างข้อบัญญัติ อบต. ร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 

          8. เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ อบต.

หน้าที่ของสภาฯ มีอะไรบ้าง ?

สภา อบต. เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของ อบต. ทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ พิจารณาให้ความเห็นชอบความเห็นชอบกิจการสำคัญของ อบต. โดยใช้มติของที่ประชุมสภา อบต. เป็นหลัก มีประธานสภา อบต. เป็นหัวหน้า

อำนาจหน้าที่ของสภา อบต. มีดังนี้ 
          (1) ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนา อบต. เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารกิจการของ อบต. 
          (2) พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างข้อบัญญัติ อบต. ร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ของ อบต.
          (3) ควบคุมการปฏิบัติงานของนายก อบต. ให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย แผนพัฒนา อบต. ข้อบัญญัติ ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการ

มีใครบ้างในสภา อบต. และมีหน้าที่อย่างไร 

          (1) สมาชิกสภา อบต. (จำนวนตามโครงสร้าง อบต.) มีหน้าที่ดังนี้
               – เข้าร่วมประชุมสภา อบต. อภิปรายแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมสภา อบต. และลงมติในประเด็นต่างๆ 
               – ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ของสภา อบต.
               – เสนอร่างข้อบัญญัติ อบต. 
               – ตั้งกระทู้ถามนายก อบต. หรือรองนายก อบต. อันเกี่ยวกับงานในหน้าที่
               – เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป นายก อบต. โดยไม่มีการลงมติ ด้วยจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกสภา อบต. ทั้งหมดที่มีอยู่ 
               – ขอเปิดประชุมวิสามัญด้วยจำนวนไม่ต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภา อบต. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ 
               – หน้าที่อื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือฐานะผู้แทนประชาชนในหมู่บ้าน และ อบต. นั้น 

          (2) ประธานสภา อบต. 1 คน : เลือกจากสมาชิกสภา อบต. ให้นายอำเภอแต่งตั้งตามมติของสภา อบต. ดำรงตำแหน่งจนครบอายุสภา อบต. หรือมีการยุบสภา อบต. 
          ประธานสภา อบต. มีหน้าที่ดำเนินการประชุมและดำเนินการกิจการอื่นให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ 
               –  ดำเนินกิจการของสภา อบต. ตามที่กฎหมายกำหนด
               –  เป็นประธานของที่ประชุมสภา อบต. เว้นแต่ใขขณะที่เข้ากล่าวอภิปรายสนับสนุนหรือคัดค้านญัตติในที่ประชุมสภา อบต.
               –  บังคับบัญชาการงานใน อบต. 
               –  รักษาความสงบเรียบร้อยในสภา อบต.
               –  เป็นผู้แทนสภา อบต. ในกิจการภายนอก 
               –  อำนาจและหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือตามกฎหมาย
               –  กำหนดไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น 

          (3) รองประธานสภา อบต. 1 คน : เลือกจากสมาชิกสภา อบต.ให้นายอำเภอแต่งตั้งตามมติของสภา อบต. ดำรงตำแหน่งจนครบอายุของสภา อบต. หรือมีการยุบสภา อบต. เช่นเดียวกับประธาน อบต.
รองประธานสภา อบต. มีหน้าที่ช่วยประธานสภา อบต. ปฏิบัติการตามหน้าที่และกระทำกิจการตามที่ประธานสภา อบต. มอบหมาย: ในกรณีไม่มีประธานสภา อบต. หรือประธานสภา อบต. ไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้รองประธานสภา อบต. ปฏิบัติหน้าที่แทน 

          (4) เลขานุการสภา อบต. 1 คน: ซึ่งสภา อบต. เลือกจากปลัด อบต. หรือสมาชิกสภา อบต.
เลขานุการ อบต. มีหน้าที่รับผิดชอบงานธุรการ และจัดการประชุมและงานอื่นใดตามที่ประธานสภา อบต. มอบหมาย และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ได้กำหนดให้เลขานุการสภา อบต. มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
               –  แจ้งนัดประชุมสภา อบต. ตามคำสั่งของประธานสภา อบต. 
               –  ชี้แจ้งกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่งหรือหนังสือส่งการ หรือ แนวทางปฏิบัติซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจการของ อบต. ต่อที่ประชุมสภา อบต. 
               –  ช่วยเหลือประธานสภา อบต. จัดทำระเบียบวาระการประชุมสภา อบต.
               –  เชิญประธานสภาชั่วคราวปฏิบัติหน้าที่ 
               –  จัดทำรายงานการประชุมสภา อบต. 
               –  เก็บรักษาข้อมูลข่าวสาร หรือเอกสารของสภา อบต. แต่จะเปิดเผยได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากประธานสภา อบต.
               –  ช่วยประธานสภา อบต. ในการควบคุมการนับคะแนนเสียง 
               –  ช่วยเหลือประธานสภา อบต. ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในสภา อบต.
               –  หน้าที่อื่นตามที่กำหนดไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภาท้องถิ่นหรือกระทำกิจการอื่นตามที่ประธานสภา อบต. มอบหมาย

การปฏิบัติหน้าที่ของสภา อบต. 
          การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของสภา อบต. จะเกิดจากการประชุมสภา อบต. และมติของที่ประชุมสภา อบต. ซึ่งในปีหนึ่งจะมีการประชุม ดังนี้ 

          (1) สมัยประชุมสามัญสภา อบต. : ในปีหนึ่งให้มีสมัยประชุมสามัญ
2 สมัย หรือหลายสมัยแล้วแต่สภา อบต. จะกำหนด แต่ต้องไม่เกิน 4 สมัยๆ ละ ไม่เกิน 15 วัน แต่ถ้าจะขยายเวลาออกไปอีกจะต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ โดย้องกำหนดให้มีการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์สมัยหนึ่งและในเดือนสิงหาคมสมัยหนึ่ง 

          (2) สมัยประชุมวิสามัญสภา อบต. :นอกจากสมัยประชุมสามัญแล้ว เมื่อเห็นว่าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ของ อบต. ประธานสภา อบต. นายก อบต. หรือสมาชิกสภา อบต. มีจำนวนไม่ต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภา อบต. ทั้งหมดที่มีอยู่ สามารถทำคำร้องยื่นต่อนายอำเภอขอให้เปิดประชุมวิสามัญ ถ้าเห็นสมควรให้นายอำเภอเรียกประชุมวิสามัญได้ สมัยประชุมวิสามัญให้กำหนดไม่เกิน 15 วัน แต่ถ้าจะขยายเวลาออกไปอีกจะต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ 

อบต. มีองค์ประกอบอย่างไร

1. องค์ประกอบของ อบต. ตามกฎหมาย มีดังนี้
          (1) สภา อบต. 
          (2) นายก อบต.
2. แผนภาพโครงสร้าง อบต. ตามกฎหมาย

     นายก อบต. และสมาชิกสภา อบต. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งนั้นตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น

• องค์ประกอบของ อบต. ในการปฏิบัติงาน ดังนี้

          (1)  สภา อบต. : ฝ่ายนิติบัญญัติ
          (2)  นายก อบต . : ฝ่ายบริหาร 
          (3)  พนักงานส่วนตำบล : ฝ่ายราชการประจำ
          (4) ประชาชนในเขต อบต. : เป็นศูนย์กลางการพัฒนา และมีส่วนรวมดำเนินการ 
          (5) ฝ่ายกำกับดูแล อบต. : นายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัด

ทั้ง 5 ฝ่ายต้อง มีส่วนรวมในการดำเนินงานตามกรอบอำนาจหน้าที่อย่างสมดุล อบต. จึงพัฒนาอย่างยั่งยืนและเข้มแข็ง

อบต.เกิดขึ้นได้อย่างไร

1) อบต.เกิดขึ้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย โดยมีเกณฑ์พิจารณาดังนี้ 

          1.1 เป็นสภาตำบลที่มีรายได้โดยไม่รวมเงินอุดหนุนในปีงบประมาณที่ล่วงมา ติดต่อกัน 3 ปี เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 150,000 บาท และ 

          1.2 กฎหมายกำหนดให้สภาตำบลและ อบต. ที่มีประชากรไม่ถึง 2,000 คน ต้องยุบรวมพื้นที่เข้ากับ อบต. อื่นหรือหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีเขตติดต่อกันกันภายในเขตอำเภอเดียวกัน นอกจากสภาตำบลที่มีสภาพพื้นที่เป็นเกาะหรืออยู่ห่างไกลไม่สามารถติดต่อกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้สะดวก ดังนั้น สภาตำบลที่มีประชากรไม่ถึง 2,000 คน ก็จะไม่ได้รับการพิจารณาจัดตั้งเป็น อบต.

2) ได้มีการประกาศจัดตั้ง อบต. แล้วหลายแห่ง และได้มีประกาศยุบรวม อบต. กับเทศบาล และ อบต. ด้วยกันหลายแห่ง : ปัจจุบันมี อบต. จำนวน 6,636 แห่ง ( ข้อมูลได้มาจากวารสารของมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น)  

อบต. คืออะไร

        – เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบล โดยปกติจะประกอบด้วยหลายหมู่บ้านหลายชุมชนในเขต อบต.นั้น 
       – มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น 
       – มีชื่อและเขตพื้นที่รับผิดชอบของตนเองโดยเฉพาะ 

     ความหมายโดยรวมของ อบต. 

          “ องค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) คือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด มีพื้นที่เท่ากับตำบลแต่ละตำบล จัดตั้งมาจากสภาตำบลที่มีรายได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดและมีจำนวนราษฎรไม่น้อยกว่า 2,000 คน โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อดูแลทุกข์สุขและให้บริการประชาชนในหมู่บ้าน ตำบล เขต อบต. แทนรัฐบาลกลาง มีฐานะเป็นนิติบุคคล และเป็นราชการท้องถิ่น มีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาตำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และหน้าที่อื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งมีงบประมาณ และพนักงานเจ้าหน้าที่ของ อบต. เอง” 

การกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของ อบต.อย่างไร

               (1)  นายอำเภอมีอำนาจกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของ อบต. ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของทางราชการ 
               (2)  การปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอตามข้อ (1) ให้นายอำเภอมีอำนาจเรียกสมาชิก สภา อบต. นายก อบต. รองนายก อบต. เลขานุการนายก อบต. พนักงานส่วนตำบล ลูกจ้างของ อบต. มาชี้แจ้งหรือสอบสวน ตลอดจนเรียกรายงานและเอกสารใด จาก อบต. มาตรวจสอบได้ 
               (3) เมื่อนายอำเภอเห็นว่า นายก อบต. ผู้ใดปฏิบัติการในทางที่อาจเป็นการเสียหายแก่ อบต. หรือเสียหายแก่ราชการและนายอำเภอได้ชี้แจ้งแนะนำตักเตือนแล้วไม่ปฏิบัติตาม ในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนที่จะรอช้าไม่ได้ ให้นายอำเภอมีอำนาจออกคำสั่งระงับการปฏิบัติราชการของนายก อบต. ไว้ตามที่เห็นสมควรได้ แล้วรีบรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดทราบภายใน 15 วัน เพื่อผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยสั่งการตามที่เห็นสมควรโดยเร็ว 
               (4)  การกระทำของนายก อบต. ที่ฝ่าฝืนคำสั่งนายอำเภอ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่กรณีตาม 
               (5) ไม่มีผลผูกผันธ์กับ อบต. 
               (6) หากปรากฏว่า นายก อบต. รองนายก อบต. ประธานสภา อบต. หรือรองประธานสภา อบต. กระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ให้นายอำเภอสอบสวนโดยเร็ว: ในกรณีที่ผลการสอบสวน ปรากฏว่ามีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง ให้นายอำเภอเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมด้วยก็ได้ คำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดให้เป็นที่สุด  

ประชาชนมีความสำคัญอย่างไรต่อ อบต.

               การทำให้ประชาชนเกิดความผาสุก มีความเป็นอยู่ที่ดี ได้รับการอำนวยความสะดวก และได้รับการตอบสนองความต้องการ เป็นเป้าหมายของ อบต. เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินงานกับ อบต. ด้วย ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ 
               (1) คัดเลือกคนดี มีควมรู้ความสามารถเหมาะสมเข้าไปมีหน้าที่ ฝ่ายนิติบัญญัติของ อบต. คือ สมาชิกสภา อบต. และฝ่ายบริหาร อบต. คือ นายก อบต. ด้วยการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
               (2) เข้าไปบริหารงาน อบต. โดยตรง ด้วยการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก อบต. หรือนายก อบต. 
               (3) ลงคะแนนถอดถอนสมาชิกสภา อบต. หรือนายก อบต. ตามที่กฎหมายกำหนดหากเห็นว่าผู้นั้นไม่สมควรดำรงตำแหน่งต่อไป
               (4) เข้าชื่อกันเสนอให้สภา อบต. ออกข้อบัญญัติ อบต. ตามที่กฎหมายกำหนด 
               (5) เข้าฟังการประชุมสภา อบต. อย่างสม่ำเสมอ 
               (6) ติดตามข้อมูลข่าวสารของ อบต. อย่างสม่ำเสมอ ร่วมกิจกรรมต่างๆที่ อบต. จัดขึ้น

ตรวจสอบการทำงานและพฤติกรรมของบุคลากร อบต. ให้คำแนะนำหรือสนับสนุนการดำเนินงานของ อบต.
               (7) ร่วมจัดทำแผนพัฒนาของ อบต. ทั้งแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาและแผนพัฒนา 3 ปีของ อบต. ทุกขั้นตอน 
               (8) ร่วมเป็นคณะกรรมการในการจัดซื้อ หรือการจัดจ้างโครงการต่างๆ ของ อบต. ทั้งโดยวิธีสอบราคา ประกวดราคา หรือวิธีพิเศษของ อบต. อย่างน้อยคณะละ 2 คน
               (9) ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง และข้อบัญญัติของ อบต. 
               (10) เสียภาษีให้แก่ อบต. อย่างครบถ้วน
               (11) ประชาชนจะได้รับความคุ้มครองจากการกระทำฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ของนายก อบต. รองนายก อบต. ประธานสภา อบต. หรือรองประธานสภา อบต. หากมีพฤติกรรมดังกล่าว นายอำเภอจะดำเนินการสอบสวนแล้วรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง 
               (12) ประชาชนจะได้รับการแก้ไขปัญหา พัฒนาความเป็นอยู่ และได้รับการบริการสาธารณะจาก อบต. ตามอำนาจหน้าที่ของ อบต.

    การเลือกตั้ง อบต.

           1. ทำไมต้องไปเลือกตั้ง 
               การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนในระบอบประชาธิปไตยที่เราต้องไปใช้สิทธิลงคะแนนในการเลือกตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์และดูแลทุกข์สุขของประชาชน
               การเลือกผู้แทนของประชาชนในเขต อบต. คือ สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ต่างๆ แทนเรา เช่น การออกข้อบัญญัติ อบต. ที่จะมาบังคับใช้กับประชาชน การพัฒนาหมู่บ้านและตำบล การใช้จ่ายงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน ซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราทั้งนั้น ซึ่งหากมีการออกข้อบัญญัติ อบต. ที่ดีหรือมีการจัดทำแผนพัฒนาหรือโครงการที่ดีใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างถูกต้องก็จะทำให้ชุมชนที่อยู่ใน อบต. ดีขึ้น 

            2. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
              (1) มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี 
              (2) อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคมของปีที่มีการเลือกตั้ง
              (3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง (การเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต. ให้ถือเขตหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง: การเลือกตั้งนายก อบต. ให้ใช้เขต อบต. นั้นเป็นเขตเลือกตั้ง) 
              (4) ผู้ที่ย้ายทะเบียนบ้านจากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่งภายใน อบต. เดียวกันไม่ถึง 1 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สามารถไปลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต. ในหมู่บ้านที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านครั้งสุดท้ายเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี และเลือกตั้งนายก อบต. ได้ด้วย 

            3. การเตรียมตัวไปเลือกตั้ง 
               ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบชื่อ – นามสกุล และที่เลือกตั้ง ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน
               ขั้นตอนที่ 2 การเพิ่มชื่อ – ถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน 
               ขั้นตอนที่ 3 การแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 7 วัน 

          4. การเตรียมหลักฐานไปเลือกตั้ง 
               ก่อนไปลงคะแนน ขอให้เตรียมความพร้อม – หลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อใช้ลงคะแนนเลือกตั้งดังนี้
              (1) บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ 
              (2) ใบรับคำขอมีบัตรหรือเปลี่ยนบัตรใหม่ที่ติดรูปถ่ายและประทับตราเจ้าหน้าที่ (ใบเหลือง) 
              (3) ใบแทนใบรับคำขอมีบัตรที่ติดรูปถ่ายและประทับตราเจ้าหน้าที่ (ใบชมพู)
              (4) บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบำเหน็จบำนาญ 
              (5) ใบอนุญาตขับรถที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก ที่มีหมายเลขประจำตัวประชาชนและรูปถ่าย
              (6) หนังสือเดินทางที่ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศที่มีหมายเลขประจำตัวประชาชนและรูปถ่าย 

           5. วิธีการเลือกตั้ง               
การเลือกตั้งสมาชิก สภา อบต. ใช้หมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ผู้สมัครได้เท่าจำนวนสมาชิกที่พึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น ดังนี้ 
               – อบต. ที่มีหมู่บ้านเดียว เลือกผู้สมัครสมาชิกสภา อบต. ได้ 6 คน
               – อบต. ที่มีเพียง 2 หมู่บ้าน เลือกผู้สมัครสมาชิกสภา ได้ 3 คน 
               – อบต. ที่มีมากกว่า 2 หมู่บ้าน เลือกผู้สมัครสมาชิกสภา อบต. ได้ 2 คน
               การเลือกตั้ง นายก อบต. ใช้เขต อบต. เป็นเขตเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้สมัครนายก อบต. ได้ 1 คน 

          6. การเสียสิทธิเมื่อไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 
               6.1 กฎหมายกำหนดให้บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อการเลือกตั้งเป็นทั้งหน้าที่และสิทธิหากไม่ได้ไปทำหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง และไม่ได้แจ้งเหตุอันควรที่ทำให้ไม่เลือกตั้งจะมีผลให้เสียสิทธิในระดับท้องถิ่น ดังนี้ 
                   (1)  สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ. สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกสภา อบจ. สมาชิก กทม. สมาชิกสภาเมืองพัทยา ผู้ว่าฯ กทม. นายกเทศมนตรี นายกเมืองพัทยา นายก อบจ. นายก อบต. 
                   (2)  สิทธิร้องคัดค้านการเลือกกำนันและผู้ใหญ่บ้าน 
                   (3)  สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภา อบต. สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกสภา อบจ. สมาชิกสภา กทม. สมาชิกสภาเมืองพัทยา ผู้ว่าฯ กทม. นายกเทศมนตรี นายกเมืองพัทยา นายก อบจ. นายก อบต.
                   (4)  สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน 
                   (5)  สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่น 
                   (6)  สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภา อบต. สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกสภา อบจ. สมาชิกสภา กทม. สมาชิกสภาเมืองพัทยา ผู้ว่าฯ กทม. นายกเทศมนตรี นายกเมืองพัทยา นายก อบจ. นายก อบต.

               6.2 การจะได้สิทธิต่างๆ ที่เสียไปกลับคืนมา เมื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งต่อไป ดังนี้ 
                    (1)  ถ้าหากการเสียสิทธินั้นเกิดจากการที่เราไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในระดับชาติ คือ ส.ส. หรือ ส.ว.จะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. หรือ ส.ว. อย่างใดอย่างหนึ่ง สิทธิที่เสียไปจะได้กลับคืนมา 
                    (2)  ถ้าหากการเสียสิทธินั้นเกิดจากการที่เราไม่ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น จะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกสภา อบจ. สมาชิกสภาเมืองพัทยา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายก อบจ. นายก อบต. นายกเทศมนตรี นายกเมืองพัทยา หรือผู้ว่าฯ กทม. อย่างใดอย่างหนึ่ง สิทธิที่เสียไปในระดับท้องถิ่นจึงได้กลับคืนมา